วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลักษณะทั่วไป

1. ราก และลำต้น
ต้นกระบองเพชรมีรูปร่างแตกต่างกันตามสายพันธุ์ เช่น เป็นรูปทรงกลม หรือทรงกระบอก และอาจเป็นเหลี่มในแนวตั้งตรง อาจเป็นต้นเดี่ยวหรือเป็นต้นกลุ่ม บางพันธุ์มีขนาดต้นเล็กกะทัดรัด แต่บางพันธุ์มีขนาดยาว สูงใหญ่ หรือมีสายห้อยผิวลำต้นมีลักษณะเรียบ สีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้ม ทำหน้าที่สังเคราะห์แทนใบ  ผิวมีลักษณะเป็นมันคล้ายมีขี้ผึ้งเคลือบ เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ บนผิวมีตุ้มหนามเรียงกันตลอดแนวสันลำต้น  ส่วนรากกระบองเพชรมีระบบเป็นรากแก้วขนาดสั้น และแตกเป็นรากแขนง และรากฝอยรอบข้าง รากฝอย และรากแขนงมีจำนวนน้อย รากสั้น แทงหาอาหารในระดับผิวดิน ไม่หยั่งลึก
 ทรงกลม

2. ใบ และหนาม
กระบองเพชรส่วนมากจะไม่มีใบ เพราะใบกลายเป็นเป็นหนามแทน แต่บางพันธุ์อาจมีใบขนาดเล็กแทงขึ้นบริเวณตุ่มหนาม มีลักษณะแบ่งได้ 2 แบบ คือ หนามกลาง และหนามข้าง หนากระบองเพชรจะแทงขึ้นบนตุ่มหนามมีลักษณะเป็นแท่งหนามยาว ขนาดเล็ก แข็งแรง และแหลมคม หนึ่งตุ่มหนามอาจมีหนามได้มากกว่า 5 เส้น แต่บางสายพันธุ์หนามที่ขึ้นอาจมีลักษณะเป็นขนเล็กๆ คล้ายขนสัตว์ ไม่แข็ง ปลายอาจงอเป็นตะขอ หนามที่แทงออกมีได้หลากหลายสี อาทิ สีขาว สีแดง สีส้ม สีน้ำตาล สีเหลือง และสีดำ บางพันธุ์สามารถเปลี่ยนสีได้ตามลักษณะภูมิอากาศ และอายุของลำต้น
3. ดอก
ดอกกระบองเพชรมักไม่พบเห็นหรือบางคนอาจเข้าใจว่ากระบองเพชรไม่มีดอก แต่แท้จริงแล้ว กระบองเพชรเป็นพืชที่ออกดอก แต่จะออกดอกเมื่อต้นเติบโตจนเต็มวัยเท่านั้น ซึ่งมีอายุนานหลายปี ทำให้ผู้ปลูกทั่วไปจึงไม่ค่อยเห็นดอกมากนัก เพราะต้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นกระบองเพชรที่มีอายุเพียงไม่กี่เดือน สำหรับดอกกระบองเพชรที่ออกส่วนมากจะมีสีสันสวยงาม มีรูปร่างหลายแบบ และบางพันธุ์มักมีกลิ่นหอม ลักษณะดอกอาจพบได้หลายแบบ ได้แก่ ดอกรูปทรงกรวย รูประฆัง รูปจาน และรูปทรงหลอด ดอกจะไม่มีก้าน กลีบดอกบอบบาง มีหลายสี อาทิ สีขาว สีครีม สีแดง สีส้ม สีชมพู และสีเหลือง เป็นต้น  และอาจมีหลายสีในดอกเดียว ส่วนตำแหน่งของดอกจะแทงออกบริเวณตุ่มหนาม เป็นส่วนใหญ่ เช่น 1.สกุล Echinocereus ดอกเกิดใกล้กับตุ่มหนาม     2.สกุล Mammillaria และ Coryphantha ดอกเกิดบริเวณซอกเนินหนาม   3.สกุล Melocactus  และ Discocatus ดอกเกิดในกลุ่มหนาม เฉพาะบริเวณส่วนยอด มีลักษณะเป็นปุ๋ยนุ่นสีขาวครีม
4. ผล
ผลของกระบองเพชรมักมีสีสันสวยงามตามลักษณะสีดอก ลักษณะผลอาจเป็นรูปกลม รูปไข่ หรือทรงกระบอก เปลือกเป็นมันเรียบ และอาจมีขนหรือหนามแข็งปกคลุม แต่บางพันธุ์อาจมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนกัน ส่วนเนื้อผลมีลักษณะใส คล้ายวุ้น มีเมล็ดอยู่ด้านใน เมื่อผลแก่มักจะแห้ง แต่บางพันธุ์อาจปริแตก เพื่อให้เมล็ดร่วงออก

การปลูก

กระบองเพชรสามารถปลูก และขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด การปักชำต้น และกิ่ง และการแยกหน่อ   การปลูกนิยมปลูกในกระถางพลาสติกหรือกระถางดินเผาขนาดเล็ก ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของกระบองเพชรที่ปลูก แต่ส่วนมากจะนิยมปลูกกระบองเพชรที่มีขนาดเล็ก  วัสดุปลูกจะใช้ดินเพียงเล็กน้อยผสมกับทราย และวัสดุอินทรีย์อื่นๆ เช่น แกลบ ขุยมะพร้าว ขี้เถ้า เป็นต้น อัตราส่วนผสมที่ 1:1 โดยควรมีวัสดุหลัก ดังนี้ ดิน ทราย และแกลบ/ขุยมะพร้าว/ขี้เถ้า  การรดน้ำอาจรดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพียงเล็กน้อย และสามารถตั้งดูแลได้ในทุกสภาพพื้นที่ ทั้งที่มีแดดส่องถึงหรือไม่มีแดดเลย

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประวัติความเป็นมา

- ประวัติความเป็นมา -
        มีข้อสันนิษฐานว่า ต้นตระกูลของแคคตัสนั้นเริ่มเกิดขึ้นใน ช่วงปลายของยุค Mesozoic และช่วงต้นของยุค Tertiary ซึ่งเป็นยุคที่พืชมีดอกมีการ พัฒนามากที่สุด เดิมต้นแคคตัสมีลักษณะไม่แตกต่างไปจากพืชอื่นมากนัก เช่น   สกุล (genus) Pereskia ซึ่งยังตงมีใบที่แท้จริงและทรงต้นเหมือนพิชอื่นทั่วไปแต่ด้วย เหตุที่ต้องผจญภัยกับสภาพอากาศซึ่งเลวลงตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่น้ำฝนลด   ลงและอากาศร้อนแห้งแล้งจึงมีผลกระทบต่อพืชในเขตอเมริกาใต้ซึ่งได้รับแสงอาทิตย์ โดยตรงและต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สามารถต้านทานต่อช่วงอุณหภูมิที่สูง ขึ้นนี้ ด้วยการสะสมน้ำเป็นจำนวนมากไว้ที่ลำต้นทำให้ลำต้นมีลักษณะอวบอ้วนและ สั้นลง แคคตัสเป็นพืชพื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกา และมีการแพร่กระ จายพันธุ์ไปยังแหล่งอื่น ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ กัน เช่น แคคตัสสกุล Rhipsalis แพร่ พันธุ์อยู่ในประเทศแอฟริกาและอินเดียโดยนก หรือแคคตัสสกุล Opuntia บางชนิด ที่มีผู้นำเข้าไปปลูกเลี้นงในยุโรปเป็นต้น ส่วนในประเทศไทย ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่ามี   การนำแคคตัสเข้ามาปลูกเลี้ยงเมื่อใด แต่น่าจะยาวนานกว่า 30 ปี โดยในสมัยก่อนมี แคคตัสเพียงไม่กี่พันธุ์ เช่นที่เราเรียกกันว่า ใบเสมา (Opuntia) โบตั๋น (Rhipsalis) เป็นต้น

เกี่ยวกับฉัน

ชื่อ : นางสาว  รัตนสุดา  ฉิมพาลี
ชื่อเล่น : กานต์
เกิด : วันเสาร์  ที่ 15  เมษายน  พ.ศ.2543
กำลังศึกษาอยู่ โรงเรียนสงวนหญิง  จ.สุพรรณบุรี
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
FB : Karn Rattanasuda
ID Line : 2543_karn_15042543


Name : Rattanasuda  Chimphalee
Nickname : Karn
Birth : Saturday 15th April 2000
In education : Sa-Nguan Ying School
More information can be found at :
Facebook : Karn Rattanasuda
ID Line : 2543_karn_15042543